คู่กรณีน้องเนยที่ถูกบูลลี่เรื่องขายสบู่ออนไลน์

             หากยังจำกันได้ดีกับเรื่องราวของเด็กหญิงคนหนึ่งสาวน้อยมีชื่อว่าน้องเนยซึ่งเธอนั้นเป็นเด็กนักเรียนที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยเธอนั้นได้ทำการช่วยเหลือครอบครัวของเธอที่มีอาชีพค้าขายด้วยการนำสบู่ของที่บ้านมาประกาศขายผ่านทางโลกออนไลน์

โดยระบุที่เธอขายนั้นระบุว่าเป็นระบุที่ใช้แล้วจะทำให้ผิวขาวแต่ด้วยเนื่องจากน้องเนยนั้นมีสภาพผิวที่เป็นผิวสีแทนทําให้ระหว่างที่มีการขายสินค้าออนไลน์อยู่นั้นมีคนบางกลุ่มที่เข้ามาต่อว่าเธอว่าขายสินค้าให้ผิวสีขาวแต่ตัวแม่ค้าเองนั้นผิวไม่ได้สีขาวแล้วจะขายของได้อย่างไรซึ่งหลายคนมองว่าข้อความที่เข้ามาต่อว่าน้องเนยนั้นเปรียบเหมือนกับการเป็นการ bully น้องเนย

และเป็นการเหยียดสีผิวของน้องเนยซึ่งเมื่อน้องเนยได้อ่านข้อความเหล่านั้นเธอก็ขายของไปร้องไห้ไปเลยเธอเสียใจกับข้อความที่มีคนเข้ามาต่อว่าทำให้หลายคนที่ได้เห็นน้องเนยขายของออนไลน์และร้องไห้ขนาดขายของนั้นเกิดความรู้สึกสงสารต่างก็พากันแนะนำให้เธอไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เขียนเข้ามาต่อว่าน้องเนย

เพราะถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย พรบ. คอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถเอาผิดได้อย่างไรก็ตามจากข้อความที่หลายคนแนะนำน้องเนย ไปนี่เองครอบครัวของน้องเนยจึงได้พาน้องเนยนั้นไปทำการแจ้งความที่สถานีตำรวจและได้มีการสืบหาคู่กรณี

ว่าเป็นเด็กนักเรียนหญิงที่อยู่อีกจังหวัดหนึ่งซึ่งน้องเนยนั้นไร้สินค้าขายของอยู่ที่จังหวัดสระแก้วส่วนคู่กรณีของน้องเนยนั้นอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทราอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานงานไปยังพ่อแม่ของคู่กรณีเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยในครั้งแรกนั้นแม่ของคู่กรณียืนยันว่าจะพาคู่กรณีมาตกลงยอมความกันที่สถานีตำรวจของจังหวัดสระแก้ว

แต่พอถึงกำหนดวันที่จะต้องมีการนัดเจอกันปรากฏว่าฝ่ายคู่กรณีไม่ยอมมาเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจโทตามข้ออ้างเหตุผลว่าผู้ปกครองอีกท่านหนึ่งชื่อเป็นคุณพ่อของคู่กรณีนั้นติดงานด่วนไม่สามารถที่จะเดินทางมาได้จึงขอเลื่อนการพูดคุยตกลงเจรจากันในครั้งนี้ออกไปก่อน

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้ทางครอบครัวของน้องเนยนั้นกลับไปรอที่บ้านก่อนและนัดวันที่จะเจอกันกับคู่กรณีอีกครั้งหนึ่งซึ่งครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าหากทางคู่กรณียังบ่ายเบี่ยงไม่มาตกลงเจรจายอมความกันหรือไม่มาขอโทษน้องเนย

และครอบครัวต่อหน้าที่สถานีตำรวจทางครอบครัวของน้องเนยก็จะดำเนินการดำเนินคดีจนถึงที่สุดซึ่งก็จะทำให้ความผิดนี้ร้ายแรงมากขึ้นเพราะความผิดพรบ. คอมพิวเตอร์นั้นบทลงโทษค่อนข้างร้ายแรงและมีค่าปรับค่อนข้างสูงนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    หวยออนไลน์ ruay